clickToScroll

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สมุนไพร แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สมุนไพร แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

,

น้ำมันมะรุม(Ben Oil) สรรพคุณเพื่อความงามอันน่าเหลือเชื่อ


ณ เวลานี้ น้ำมันมะรุม ได้รับการยกย่องว่าเป็นน้ำมันที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งถูกใช้สำหรับสุขภาพและความงามมามากกว่าศตวรรษ น้ำมันมะรุมถูกเขียนในวารสารต่างประเทศเพราะประโยชน์และสรรพคุณทางยา

ข้อมูลทั่วไปของน้ำมันมะรุม

ต้นมะรุมมาจากประเทศอินเดียและประเทศในแถบหิมาลัย   ในอินเดียน้ำมันมะรุมถูกใช้เป็นยาอายุรเวชและเป็นอาหาร ในตอนนี้ต้นมะรุมถูกปลูกอยู่ในหลายประเทศแล้วรวมถึงประเทศไทย ฟิลิปปิน และแอฟริกา นอกจากจะใช้เป็นยาและอาหารแล้ว น้ำมันมะรุมยังถูกใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นให้กับเครื่องจักร และพลังงานเชื้อเพลิง

เมื่อเมล็ดของต้นมะรุมถูกบีบกดจะมีน้ำมันสีเหลืองๆใสๆออกมา ซึ่งน้ำมันชนิดนี้เราจะเรียกกันว่า Ben Oil หรือ Behen Oil เพราะมันมีความเข้มข้นของกรดเบเฮนนิค(Behenic Acid) และกรดไขมัน(Fatty Acid)สูงมาก เนื่องจากน้ำมันมะรุมมีสารแอนติออกซิแดนท์(Antioxidant)ที่คงความสดใหม่ให้กับเซลล์ตามธรรมชาติ มันจึงเป็นน้ำมันที่ความเสถียร(Stable), ป้องกันกลิ่นเหม็นหืน และมีอายุการใช้งานถึง 5 ปี น้ำมันมะรุมอุดมไปด้วยสารอาหาร มีสาร palmitoleic สูง, มี oleic และ linoleic acids, กรดไขมันที่ให้ความชุ่มชื้น(moisturizing fatty acids) และวิตามิน A และ C

ความลับความงามที่เก่าแก่
ในกรุงโรม กรีก และอียิปต์โบราณ น้ำมันมะรุมเคยใช้ในการทำน้ำหอมและปกป้องผิว  น้ำมันยังถูกใช้ใน
การนวดแผนโบราณเพื่อช่วยเพิ่มกลิ่นหอมของดอกไม้ นำมาใส่ผมเพราะน้ำมันดูดซึมและคงกลิ่นเอาไว้
ในอียิปต์ น้ำมันมะรุมถูกใช้ทำเป็นครีมยา ขี้ผึ้ง(Salves) และใช้ป้องกันผิวจากสภาพอากาศที่เป็นทะเลทราย นอกจากนี้ชาวอียิปต์โบราณยังใช้น้ำมันมะรุมในพิธีกรรมทางศาสนาด้วย นักโบราณคดีพบขวดน้ำมันมะรุมในหลุมฝังศพเก่าแก่ของชาวอียิปต์โบราณ

วิตามินในน้ำมันมะรุม
  • วิตามินเอ - มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน
  • วิตามินซี - มีส่วนช่วยในการลดเลือดริ้วรอย
  • วิตามินอี - ช่วยรักษาและบรรเทาอาการผื่นคัน

น้ำมันสรรพคุณที่สำคัญ

บำรุงผิวพรรณ
น้ำมันมะรุมพบมากในเครื่องสำอางเนื่องจากน้ำมันมะรุมทำให้ผิวชุ่มชื้น ทำความสะอาดและสรรพคุณช่วยให้ผิวนวล   น้ำมันมะรุมสามารถใช้เป็นแชมพู ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โลชั่น น้ำมันทาตัว(Body Oil) น้ำมันทาปาก ครีมลบเลือนริ้วรอยแห่งวัย ครีมทาหน้า สบู่ น้ำหอม และใช้ดับกลิ่นตัวได้   น้ำมันมะรุมยังถูกใช้ทำน้ำมันหอมระเหยและน้ำมันนวด เนื่องจากน้ำมันมะรุมผสมได้ดีกับน้ำมันหอมระเหยและสามารผสมกับส่วนผสมอื่นๆได้ดีเยี่ยม น้ำมันมะรุมสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผิวพรรณเปร่งปรั่งสดใส

ช่วยรักษาผิวแห้ง
  • น้ำมันมะรุมทำให้ผิวนุ่มและรักษาความชุ่มชื้นภายในผิว
  • น้ำมันมะรุมมีประโยชน์ในการรักษาผิวที่หยาบกร้านและแห้ง  เช่น โรคผิวหนังบางชนิด กรากเกลื้อน และโรคสะเก็ดเงิน
ลดริ้วรอย
  • น้ำมันมะรุมช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่เกิดริ้วรอย
  • สารแอนติออกซิแดนซ์ และสารอาหารในน้ำมันมะรุมช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็นเหตุให้เนื้อเยื่อของผิวถูกทำลายและนำไปสู่การเกิดริ้วรอยในที่สุด
  • ช่วยแก้ไขริ้วรอยที่เกิดขึ้นและการหย่อนคล้อยของผิวหนัง
  • ฮอร์โมนของพืชที่เรียกว่าไซโตไคนิน ช่วยส่งเสริมการเกิดใหม่ของเซลล์ และชะลอความเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อผิวหนัง
  • วิตามินซีช่วยให้คอลลาเจน(Collagen)เสถียร ช่วยลดริ้วรอยและฟื้นฟูเซลล์ที่ถูกทำลาย

ป้องกันสิวและจุดด่างดำจากสิว

  • น้ำมันมะรุมช่วยจัดการสิวหัวดำและสิวหัวหนอง   เมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยไม่ให้เป็นสิวซ้ำอีก
  • ช่วยลบเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากสิว
คุณสมบัติฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ
น้ำมันมะรุมมีคุณสมบบัติด้านการฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ และใช้ในการรักษาแผลเล็กน้อยได้เช่น
  • แผลถลอก
  • โดนข่วน
  • มีดบาด
  • ฟกช้ำ
  • โดนไหม้เล็กน้อย
  • แมลงกัดต่อย
  • ผื่น
  • ถูกแดดเผา
  • การติดเชื้อที่ผิวหนังเล็กน้อย

สูตรลับความงามกับน้ำมันมะรุม

บำรุงผิวพรรณของคุณ - นวดน้ำมันมะรุมบนผิวจะช่วยให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น
โทนเนอร์ให้ผิวชุ่มชื้น - โทนเนอร์นี้ใช้ได้กับผิวทุกแบบ วิธีทำคือ ผสมน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำมันมะรุม 2 ช้อนชา จากนั้นเก็บไว้ในขวดที่สะอาด  ใช้ตอนเช้าและตอนเย็นจะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น
สครับขจัดเซลล์ผิวเก่า - ผสมน้ำตาลทายแดงกับน้ำมันมะรุมจะได้สครับที่มีความอ่อนโยนต่อผิว การสครับให้หมุนเป็นวงกลม และล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ผสมล้างเครื่องสำอางด้วยน้ำมันมะรุม - ผสมน้ำมันมะพร้าวครึ่งถ้วย น้ำมันมะรุมครึ่งถ้วย และน้ำมันจากต้นชาอีก 5 หยด จากนั้นเก็บไว้ในขวดที่สะอาด   ใช้สำลีชุบและเช็ดออกเบาๆ(การใช้สำลีแบบแผ่นจะช่วยให้ใยของสำลีไม่เข้าตา)

รวบรวมข้อมูลโดย สยามเฮิร์บส์

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557

,

หัวไชเท้า สรรพคุณมหาสารที่หลายคนยังไม่รู้


หลายท่านทานหัวไชเท้ากันอยู่ในชีวิตประจำวัน รู้หรือไม่ว่าหัวไชเท้ามีคุณประโยชน์และสรรพคุณมากมายหลายอย่างที่เรานึกไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสวยความงาม รักษาโรคต่างๆซึ่งปรากฎในตำราการแพทย์ของจีนและอินเดีย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย ว่าแล้วก็มาดูรายละเอียดของไชเท้ากันเลยครับ

ข้อมูลทั่วไป

หัวไชเท้า ภาษาอังกฤษมีชื่อว่า Radish, White Radish ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Raphanus sativus var. longipinnatus นอกจากนี้ชื่ออื่นๆยังมีอีกมากมาย เช่น หัวไช้เท้า หัวผักกาด ผักกาดหัว มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ตามตำราจีนโบราณบอกว่าหัวไชเท้าสามารถกำจัดสิ่งสกปรกที่หมักหมมภายในร่างกาย มีฤทธิ์เป็นหยาง หรือเป็นภาษาไทยก็คือ ฤทธิ์เย็นนั่นเอง หัวไชเท้าจะมีรสชาติเผ็ดร้อนหน่อยๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในหลายๆด้านซึ่งจะอธิบายต่อไปในหัวข้อ หัวไชเท้าสรรพคุณและคุณประโยชน์ การรับประทานหัวไชเท้านั้นสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสุกและแบบดิบ ถ้าเป็นไปได้ควรรับประทานแบบดิบมากกว่า เนื่องจากจะทำให้ได้ประโยชน์จากหัวไชเท้ามากกว่า

หัวไชเท้า สรรพคุณที่หลากหลาย

สรรพคุณและคุณประโยชน์ของไชเท้าในการบำรุงและป้องกันโรคมีดังนี้
  • ฟื้นฟูและบำรุงผิวพรรณ - วิตามินซี ฟอสฟอรัส สังกะสี และวิตามินบีบางชนิดในหัวไชเท้า เป็นประโยชน์กับผิวพรรณเป็นอย่างมาก น้ำจากหัวไชเท้าช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น หัวไชเท้าที่สับหรือบดจนละเอียดสามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างดีจากสรรพคุณด้านการฆ่าเชื้อ นอกจากนี้หัวไชเท้ายังช่วยรักษาผิวที่แห้ง เป็นผื่น เป็นฝ้ากระได้อีกด้วย
  • การลดน้ำหนัก - ส่วนประกอบของหัวไชเท้ามีระดับคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำ มีน้ำมาก ทำให้เราอิ่มโดยไม่ทำให้ระดับแคลเลอรี่เพิ่มขึ้น มีใยอาหารมากทำให้ขับถ่ายได้สะดวก ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานในร่างกายอีกด้วย ดังนั้นหัวไชเท้าจึงเป็นพืชอีกชนิดที่น่าสนใจใที่จะทำเป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
  • ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย - มีเหตุผลมากมายว่าทำไมหัวไชเท้าจึงเป็นอาหารที่ควรทานควบคู่กับอาหารหลักของเรา การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเป็นสามารถหนึ่งที่สำคัญ การดื่มน้ำหัวไชเท้าเพียงครึ่งแก้ว หรือทานเป็นอาหารว่างจะทำให้เราได้รับวิตามินซีมากเกือบ 15% ของปริมาณที่ควรรับประทานต่อวัน การทานแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆจะช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เราจะได้รับสารแอนติออกซิแดนท์(antioxidants) และช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาว(อ้างอิง)ซึ่งมีความสำคัญมากในการต่อสู้กับโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคหวัดธรรมดาหรือโรคมะเร็ง!
    วิตามินซีไม่เพียงเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย แต่ยังช่วยควบคุมกระบวนการเมทาบอลิซึม(metabolism)ซึ่งเปลี่ยนจากความอ้วนเป็นพลังงานที่สามารถใช้ได้ นอกจากนี้วิตามินซีจากหัวไชเท้ายังมีส่วนในการสร้างคอลลาเจน(collagen)ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นในการสร้างความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือด ทำให้ลดโอกาสที่จะเป็นโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ
  • แมลงสัตว์กัดต่อย - หัวไชเท้ามีสรรพคุณบรรเทาอาการคัน จึงสามารถใช้บรรเทาอาการแมลงกัดต่อยและผึ้งต่อย นอกจากนี้น้ำหัวไชเท้าสามารถลดอาการเจ็บ ปวด บวม ในบริเวณที่โดนกัดต่อยและบริเวณใกล้เคียงได้
  • โรคดีซ่าน - หัวไชเท้ามีประโยชน์มากสำหรับตับและกระเพาะอาหาร นอกจากนี้มันยังเป็นตัวดีท็อกซ์ได้เหมือนกัน ซึ่งหมายความว่ามันจะช่วยให้เลือดบริสุทธิ์ ขจัดสารพิษและของเสียออกไป หัวไชเท้ามีประโยชน์อย่างยิ่งในการรักษาโรคดีซ่าน เพราะหัวไชเท้าจะลดระดับของ Bilirubin และช่วยให้สารผลิตภัณฑ์ของ Bilirubin อยู่ในระดับที่ปกติอีกด้วย นอกจากนี้หัวไชเท้ายังช่วยลดการทำลายของเม็ดเลือดแดงซึ่งทำให้ผู้ป่วยดีซ่านต้องทรมานด้วยการเพิ่มออกซีเจนที่บริสุทธิ์ให้แก่เลือด
  • โรคริดสีดวงทวาร - หัวไชเท้าจะช่วยให้การย่อยอาหารเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยเก็บรักษาน้ำ และช่วยแก้ปัญหาท้องผูกที่เป็นสาเหตุหลักของโรคริดสีดวงทวาร เนื่องจากหัวไชเท้าเป็นตัวดีท็อกซ์ที่ดีเยี่ยม มันจึงรักษาอาการริดสีดวงทวารได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้น้ำของหัวไชเท้ายังมีส่วนช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายได้อีกด้วย
  • ความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ - น้ำของหัวไชเท้าสามารถบรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดแสบปวดร้อนขณะปัสสาวะ นอกจากนี้ยังช่วยทำความสะอาดไต ยับยั้งการติดเชื้อของไตและระบบปัสสาวะ ทำให้หัวไชเท้าเป็นตัวช่วยในการรักษาสภาพของระบบปัสสาวะที่มีพิษเยอะเกินไปให้เป็นปกติได้
  • หัวใจและหลอดเลือด - หัวไชเท้าอุดมไปด้วย Anthocyanin ซึ่งให้ทั้งสีแก่หัวไชเท้าและประโยชน์ทางสุขภาพอีกมากมาย  Anthocyanin มีส่วนช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ต้านมะเร็ง และคุณสมบัติต้านการอักเสบ
  • ความดันโลหิตสูง - นอกจากนี้หัวไชเท้ายังอุดมไปด้วยโพแทสเซี่ยม(Potassium) ที่มีส่วนช่วยในการลดความดันเลือด เพราะโพแทสเซี่ยมช่วยให้หลอดเลือดแดงคลายตัวใหญ่ขึ้น ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น การลดความดันเลือดเกิดจากหลอดเลือดแดงที่ขยายใหญ่ขึ้นนั่นเอง
  • แก้ไข้ - หัวไชเท้าสามารถลดอุณหภูมิในร่างกาย วิธีที่ดีที่สุดในการเพื่อบรรเทาอาการไข้คือการดืมน้ำหัวไชเท้า บางตำราบอกให้ผสมเกลือดำ(มีหลายชื่อเรียก บางท่านเรียกเกลือพระพุทธเจ้า, Kala Namak, Black Salt)ลงไปในน้ำหัวไชเท้า ซึ่งสรรพคุณที่สามารถฆ่าเชื้อได้ของหัวไชเท้าทำให้มันสามารถต้านการติดเชื้อที่ทำให้เป็นไข้ได้
  • โรคไต - จากสรรพคุณการฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด หัวไชเท้าสามารถรักษาความผิดปกติของไตได้หลายชนิด หัวไชเท้าสามารถล้างพิษที่สะสมในไต และลดการสะสมพิษภายในกระแสเลือด นอกจากนี้ยังลดโอกาสการจิดเชื้อในไตได้อีกด้วย
  • โรคเบาหวาน - หัวไชเท้ารู้จักกันมานานแล้วว่ามีน้ำตาลในระดับที่ต่ำ ดังนั้นการทานหัวไชเท้าจึงไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมการดูดซึมน้ำตาลในกระแสเลือดด้วย
  • โรคมะเร็ง - ตั้งแต่หัวไชเท้าเป็นตัวดีท็อกซ์และอุดมไปด้วยวิตามนซี, ฟอริก(Foric) และ Anthocyanins หัวไชเท้าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้หลายชนิดเช่น ลำไส้ใหญ่, ไต, กระเพาะอาหาร, และช่องปาก นอกจากนี้สาร Isothiocyanate ในหัวไชเท้ายังสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้
  • โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหลอดลมอักเสบ และโรคหอบหืด - หัวไชเท้าลดความแน่นภายในระบบทางเดินหายใจรวมทั้งการระคายเคืองของจมูก ลำคอ และปอด ที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเป็นโรคหวัด โรคภูมิแพ้ หรือเกิดการติดเชื้อ  หัวไชเท้ามีประสิทธิภายในการฆ่าเชื้อและอุดมไปด้วยวิตามิน ซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้

ข้อควรระวัง

ไม่ควรทานสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนเช่น โสม ตังกุ่ย เนื่องจากฤทธิ์เย็นของหัวไชเท้าจะสะเทินฤทธิ์ของสมุนไพรตัวอื่นๆ ส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมุนไพรจะไม่ดีเท่าที่ควร

อ้างอิง

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

,

พริกไทยดำ สรรพคุณลดน้ำหนัก...แล้วมีผลข้างเคียงไหม ?


พริกไทยดำ สมุนไพรลดน้ำหนักของไทยมีสรรพคุณอย่างไรบ้าง เมื่อทานเยอะเกินไปจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดเซลล์มะเร็งไหม มีผลการวิจัยอะไรรองรับหรือเปล่า ในบทความสมุนไพรชุดนี้มีคำตอบ....

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

,

มะขามแขก สรรพคุณคือตัวเต็งเรื่องยาระบาย


ส้มแขก ถือเป็นยาระบายที่ได้ผลดี เมื่อกินลงไปแล้วจะทำให้สารชนิดหนึ่งภายในมะขามแขกกระตุ้นการบีบตัวของลำใส้ ทำให้ผู้ที่กินปวดท้องและถ่ายออกมาในที่สุด ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าว ทำให้หลายท่านเข้าใจว่าส้มแขกสามารถลดความอ้วนได้ มันลดน้ำหนักได้จริงเหรอ หาคำตอบได้ที่นี่....

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

, ,

ส้มแขก สรรพคุณคือลดน้ำหนักได้ดีเยี่ยมจากผลการวิจัย


ส้มแขก สมุนไพรไทยลดน้ำหนัก ของดีในประเทศไทยที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ สยามเฮิร์บส์เชื่อว่า หลายๆท่านที่ต้องการลดน้ำหนัก แต่ไม่รู้ว่าจะทานอะไรดี การตัดสินใจกินยาลดน้ำหนักก็อาจได้ผลเสียมากกว่าผลดี ส้มแขกถือเป็นทางเลือกหนึ่งทีน่าสนใจไม่มีผลข้างเคียง ไม่เกิดเอ็กเฟ็คต์ตามมา และได้รับการยืนยันจากผลการวิจยของสถาบันทางวิทยาศาสตร์ 3 แห่งของประเทศไทยด้วย

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

,

มะรุม สรรพคุณทางยาประโยชน์และผลข้างเคียงจากงานวิจัยม.มหิดล

มะรุมถือว่าเป็นสมุนไพรไทยสารพัสประโยชน์ มีสรรพคุณทางยามากมาย น้ำมันมะรุมยังเหมาะกับผู้หญิงที่ต้องการให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย ผิวอ่อนนุ่ม ไม่หยาบกร้าน สามารถฆ่าเชื้อราและแบคที่เรียบางชนิดได้ จึงเหมาะกับผู้ที่มีอาการเป็นเชื้อราที่หนังศรีษะ มีอาการคันศีรษะ และลดอาการผมร่วง นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปวดตามข้อ หรือผู้ที่เป็นโรคเก๊าได้