ขั้นตอนที่ 1 ล้างหน้าสองครั้งในหนึ่งวัน
ขั้นแรกในการทำความสะอาดผิวคือฝึกนิสัยการล้างหน้าให้เป็นกิจวัตรประจำวัน บังคับตัวเองให้ล้างหน้าหลังจากที่ตื่นนอนในตอนเช้าและก่อนเข้านอน คุณอาจจะเหนื่อยหรือไม่ว่าง แต่การใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการล้างหน้าจะช่วยลดสิวของคุณได้- ใช้เวลาล้างหน้าอย่างน้อยที่สุด 1 นาที เป็นเวลาที่มากพอที่จะจัดการแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
- ถ้ามีสิวในส่วนอื่นๆของร่างกายเช่น ไหล่ หลัง หรือหน้าอก คุณควรล้างบริเวณนั้น 2 ครั้งต่อวันด้วย
- ถ้าคุณต่างหน้า อย่าเข้านอนเลยโดยที่ไม่ได้ล้างออก การนอนหลับโดยไม่ล้างเครื่องสำอางออกจะทำให้เป็นสิวมากขึ้นและการที่จะกำจัดสิวพวกนั้นออกจะทำได้ยากขึ้น ควรใช้น้ำยาล้างเครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมันร่วมกับโฟมล้างหน้าของคุณเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเครื่องสำอางถูกล้างอย่างหมดจดแล้ว
ขั้นตอนที่ 2 ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ "เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์"
คุณควรใช้สบู่หรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์(Benzoyl Peroxide) หากเป็นโลชั่น คุณควรทาบริเวณที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดสิว(ส่วนใหญ่จะเป็น T-zone) ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะทำความสะอาดผิวที่ตายและช่วยให้ผิวสร้างเซลล์ผิวใหม่
คำแนะนำ : คุณควรหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ประมาณ 3% หรืออาจจะน้อยกว่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของคุณระคายเคือง
ขั้นตอนที่ 3 ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ "ซาลิไซลิค เอซิด"
salicylic acid หรือ กรดซาลิไซลิค นั้นจะคล้ายๆกับเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์(Benzoyl Peroxide) แต่ไม่เหมือนกันตรงที่ มันจะเข้าไปกำจัดเซลล์ที่ตายและมีส่วนช่วยให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้ผิวบริเวณสิวของคุณแห้ง แต่ไม่ต้องกังวลเพราะมันจะดีขึ้นในเวลาไม่นานเมื่อผิวของคุณสร้างเซลล์ผิวใหม่เร็วขึ้น
คำแนะนำ : ใช้ผลิตภัณฑ์นี้เพื่อทำความสะอาดและรักษาเฉพาะบริเวณสิวทุกวัน
ขั้นตอนที่ 4 ใช้ Cleanser ที่มีส่วนผสมของกำมะถัน!
แม้ว่าเราจะไม่ทราบแน่ชัดว่าเพราะเหตุใด "กำมะถัน" จึงสามารถกำจัดสิวได้ดีเยี่ยมและมันเวิร์คมาก คุณควรหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกำมะถันเพื่อทำความสะอาดสิวของคุณ [อ้างอิง]
ขั้นตอนที่ 5 หาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Azelaic Acid
Azelaic Acid เป็นสารต้านแบคทีเรียซึ่งช่วยลดอาการแดงและอาการอักเสบของสิว ส่วนมากเราจะพบสารตัวนี้มากในข้าวสารีและข้าวบาร์เล่ หากสิวของคุณทิ้งรอยดำไว้ ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Azelaic Acid ในการทำความสะอาดรูขุมขนและลดจุดด่างดำที่เกิดจากสิว
ขั้นตอนที่ 6 ใช้ยาแต้มสิว
ยารักษาเฉพาะจุดเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะที่เน้นรักษาเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวเท่านั้น ซึ่งสามารถหาได้ง่ายที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน หรือทำเองก็ได่ไม่ต้องง้อใครโดยใช้อุปกรณ์ที่เรามีกันอยู่แล้วในบ้าน
- ผสม Backing Soda และน้ำจากนั้นนำมาแต้มที่สิว ตอนกลางคืนก่อนนอน ล้างออกในตอนเช้าเพื่อเอาแบคทีเรียออกและสครับเพื่อจัดการกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
- ยาเม็ดแอสไพรินที่เราน่าจะมีกันอยู่ทุกบ้าน สามารถน้ำมาผสมกับน้ำและทาบนสิวเพื่อลดอาการแดงและบวม
- ลองใช้ยาสีฟันแต้มบนสิวเพื่อให้สิวแห้งและลดอาการแดง
ขั้นตอนที่ 7 ใช้ครีมมาร์คหน้า
ครีมมาร์คหนา้ประกอบด้วยสารที่ที่ช่วยบรรเทาผิวของคุณและกำจัดแบคทีเรีย ใช้มาร์คหน้า 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ครั้งละประมาณ 15-20 นาที เพื่อหน้าไม่มันเกินไปและทำความสะอาดรูขุมขน แน่นอนว่าสามารถหาได้ที่ห้างสรรพสินค้าแทบทุกที่ แต่คุณก็สามารถทำได้ที่บ้านของคุณเอง
- น้ำมันมะกอก สามารถใช้เป็นมาร์คได้ เริ่มจากทาน้ำมันมะกอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้หมดจด
- ผสมแตงกวาและข้าวโอ๊ตใช้มาร์คหน้า : แตงกวาช่วยลดรอยแดงและลดจุดด่างดำ ส่วนข้าวโอ๊ตช่วยเรื่องการบรรเทาอาการอักเสบของผิว เมื่อผสมทั้งสองอย่างแล้วมาร์คหน้าประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- ใช้น้ำผึ้งขัดถูให้ทั่วใบหน้า จากนั้นทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- ลองใช้ไข่ขาวในการทำความสะอาดและกระชับรูขุมขน : ใช้ไข่ประมาณ 1-2 ฟอง จากนั้นตีไข่เล็กน้อยแล้วทาบนหน้า คุณจะรู้สึกว่ารูขุมขนกระชับขึ้นตอนที่มันแห้ง....รอจนกว่าไข่จะแห้งจนหมดแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
ขั้นตอนที่ 8 ใช้น้ำมันหอมระเหยลดสิว
คนทั่วไปเชื่อว่าน้ำมันหอมระเหยบางชนิดมีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสามารถหนึ่งของการเกิดสิว วิธีใช้ : หยดลงบนนิ้วแล้วแต้มไปที่สิวแต่ละจุด หรืออีกวิธีคือ หยดลงบนสำลีให้เปียกหมาดๆแล้วเช็ดบริเวณที่เป็นสิว
เพิ่มเติม : นอกจากจะใช้น้ำมันหอมระเหิยแล้ว ทางเลือกอื่นที่นิยมกันก็คือใช้ โหระพา, ลาเวนเดอร์ และโรสแมรี่ขั้นตอนที่ 9 ผลัดเซลล์ผิวหน้า
การผลัดเซลล์ผิวคือการสครับที่อ่อนโยนซึ่งจะกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่จะเป็นสามารถของการเกิดสิว ด้านล่างเป็นวิธีการทำสครับขัดผิวด้วยตัวคุณเองไม่ต้องง้อใคร
- ผสม Baking Soda และน้ำ(คล้ายๆกับขั้นตอนที่ 6 ทำยาแต้มสิว) จากนั้นถูนวดเบาๆเป็นวงกลมบนใบหน้า จะช่วยกำจัดแบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วไปพร้อมๆกัน
- สำหรับผิวแพ้ง่าย ให้ใช้ข้าวโอ๊ตแทน : ผสมข้าวโอ๊ตกับน้ำผึ้งจากนั้น ขัดถูเบาบนใบหน้าประมาณ 2-3 นาที และล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- สำหรับผิวแห้ง ให้ใช้กากกาแฟผสมกับโฟมล้างหน้าปกติของคุณ การใช้กากกาแฟที่หยาบจะขูดหน้าของคุณเกินไปเวลาสครับ เราแนะนำว่าควรใช้ผงที่บดละเอียดจะทำให้การสครับเป็นไปอย่างอ่อนโยน
ขั้นตอนที่ 10 ใช้น้ำมันจากไข่ไก่
ไข่แดงประกอบด้วยสารอิมมูโน(immunoglobulins)จะช่วยฆ่าแบคทีเรีย ลดอาการอักเสบและแก้อาการสิว กรดไขมันอิ่มตัวโอเมก้า 3(Omega-3 fatty acids)ในไขมันของไขไก่มีส่วนช่วยในการป้องกันรังสี UV
- ใช้ไขมันจากไข่ไก่นวเบาๆบนบริเวณที่เกิดสิว ครั้งละ 2-3 นาทีวันละ 2 ครั้ง
- ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม. แล้วล้างออกด้วยโฟมล้างหน้า
- ใช้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆจนกระทั่งสิวหายหมด และผิวใสแล้ว
ข้อระวัง : การหยุดใช้กลางคันอาจทำให้สิวเป็นมากขึ้นขั้นตอนที่ 11 ใช้น้ำมันจากต้นชา
น้ำมันจากต้นชามีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียซึ่งมันจะช่วยจัดการจุลินทรีย์(microbes)ที่อุดตันในรูขุมขน วิธีการใช้คือใช้คัดตอนบัด(Cotton Swab)จุ่มน้ำมันจากต้นชาแล้วแตะเบาๆบนสิว
ข้อระวัง : อย่าจุ่มน้ำมันจากต้นชาเยอะเกินไปเพราะอาจะทำให้ผิวของคุณอักเสบได้และทำให้ผิวแดงมากขึ้นขั้นตอนที่ 12 ใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้า
หลังจากที่คุณล้างหน้า สครับขัดผิว หรือมาร์คหน้า ให้ใช้โทนเนอร์(Toner)ทาให้ทั่วใบหน้า โทนเนอร์จะช่วยกระชับรูขุมขนทำให้ปัญหาสิ่งสกปรกและไขมันอุดตันลดลง หลังจากใช้โทนเนอร์อย่าล้างออกให้ทาทิ้งไว้เลย
ขั้นตอนที่ 13 ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์
คนผิวมันจะเป็นสิวง่าย แต่ถ้าผิวของคุณเป็นผิวแห้ง ร่างกายของคุณจะชดเชยผิวที่แห้งด้วยการสร้างไขมันที่มากกว่าปกติ วิธีหลักเลี่ยงคือใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังล้างหน้าทุกๆเช้าและเย็น